- Buy Online & Book Now to Visit the Burj Khalifa | Burj Khalifa
- Burj Khalifa is the tallest tower in the world and it’s one of the top attractions to visit in Dubai. Visit our website and book your Burj Khalifa tickets!
บูร์จ คาลิฟา เป็นตึกสูงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในย่านดาวน์ทาวน์ของดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยความสูง 828 เมตร และมีทั้งหมด 163 ชั้น เป็นผลงานชิ้นเอกที่แสดงให้เห็นถึงความกลมกลืนของสถาปัตยกรรม ศิลปะ วิทยาศาสตร์ และธรรมชาติ หลังจากเปิดให้บริการในปี 2553 ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของดูไบ
บูร์จ คาลิฟา ความภาคภูมิใจของตึกสูงที่สุดในโลก
บูร์จ คาลิฟา ออกแบบโดยบริษัทสถาปนิกและวิศวกรโครงสร้างของสหรัฐอเมริกา SOM และก่อสร้างโดยซัมซุง ซีแอนด์ที (Samsung C&T) ของเกาหลีใต้ โดยมี อดรีอัน สมิธ เป็นผู้ออกแบบอาคาร และ บิล เบเกอร์ เป็นผู้ออกแบบโครงสร้าง
รูปทรงของอาคารได้รับแรงบันดาลใจจากดอกลิลลี่ทะเลทราย (Spider Lily) มีหน้าตัดเป็นรูปตัว Y และลวดลายแบบเกลียว ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากลม เพิ่มทัศนวิสัย และเพิ่มความมั่นคงของโครงสร้าง
บูร์จ คาลิฟาเป็นอาคารแบบผสมผสานที่มีฟังก์ชั่นและการใช้งานที่หลากหลาย ภายในอาคารประกอบด้วย สำนักงาน ที่อยู่อาศัย โรงแรม ศูนย์การค้า ร้านอาหาร เลานจ์ จุดชมวิว พิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี่ ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีการตกแต่งและงานศิลปะที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชาวอาหรับทั้งภายนอกและภายในอาคาร บูร์จ คาลิฟาเป็นอาคารที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและความหรูหราของดูไบ
แม้ว่าจะรู้จักกันในชื่อ บูร์จ คาลิฟา (Burj Khalifa) แต่ในปี 2553 รัฐบาลและคณะกรรมการพิจารณาคำศัพท์ต่างประเทศได้กำหนดให้ใช้ชื่อ บูร์จ คาลิฟา (Burj Khalifa) เป็นชื่ออย่างเป็นทางการ
โครงสร้างของบูร์จ คาลิฟา
โครงสร้างของบูร์จ คาลิฟาประกอบด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กและโครงสร้างเหล็ก คอนกรีตเสริมเหล็กสูงถึง 584 เมตร และโครงสร้างเหล็กเป็นส่วนยอดแหลมสูง 244 เมตร น้ำหนักรวมของอาคารประมาณ 500,000 ตัน
โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กใช้ระบบ Buttressed Core ซึ่งเป็นวิธีการพิเศษที่แกนกลางของอาคารเป็นรูปหกเหลี่ยม และผนังและเสาของส่วนต่างๆ เชื่อมต่อกันเป็นโครงสร้างเดียวกัน ช่วยต้านทานแรงบิดและแรงเฉือน กระจายแรงลมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มโมเมนต์ความเฉื่อยของหน้าตัดอาคาร
โครงสร้างเหล็กเป็นส่วนยอดแหลมอยู่ที่ด้านบนสุดของอาคาร มีอุปกรณ์สื่อสารและพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยว ส่วนยอดแหลมสูง 244 เมตร และหนักประมาณ 4,000 ตัน แบ่งออกเป็น 4 ส่วน โดยยกขึ้นไปติดตั้งด้วยเครนจากพื้นดิน บนยอดแหลมมีลูกบอลโลหะประดับด้วยธงชาติของดูไบ
โครงสร้างของบูร์จ คาลิฟาผ่านการปรับแต่งให้เหมาะสมที่สุดด้วยการทดสอบในอุโมงค์ลมและการจำลองด้วยคอมพิวเตอร์ ทิศทางของอาคารพิจารณาจากทิศทางของลมแรงที่พัดผ่านบ่อยที่สุดในรอบปี และรูปทรงและลวดลายของอาคารออกแบบมาเพื่อไม่ให้เกิดการหมุนวนของลมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยลดการสั่นไหวและแรงในแนวนอนของอาคาร อาคารสามารถทนทานต่อแรงลมได้สูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจำกัดการเคลื่อนที่สูงสุดที่ชั้นบนสุดไว้ที่ 1.5 เมตร
วิธีการไปเยือนบูร์จ คาลิฟา
บูร์จ คาลิฟาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในดูไบ มีนักท่องเที่ยวมาเยือนหลายล้านคนทุกปี ค่าเข้าชมบูร์จ คาลิฟาสำหรับผู้ใหญ่คนละ 179 AED บูร์จ คาลิฟาเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 7.00 น. ถึง 24.00 น. ทุกวัน (วันหยุดสุดสัปดาห์อาจมีเวลาเปิด-ปิดที่แตกต่างกัน โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ด้านล่าง)
บูร์จ คาลิฟาตั้งอยู่ใจกลางเมืองดูไบ เดินทางสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ สถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือสถานีดูไบมอลล์ และสามารถใช้บริการรถประจำทางสาย 27, 29, F13, F16, F19A, F19B ได้
เคล็ดลับสำหรับการเยือนบูร์จ คาลิฟา
บูร์จ คาลิฟาไม่อนุญาตให้เข้าชมได้ทุกชั้น แต่จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะบางชั้นเท่านั้น ชั้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ชั้นที่ 124 และ 125 ซึ่งเป็นจุดชมวิว และชั้นที่ 148 ซึ่งเป็น The View Deck ชั้นบนสุด จุดชมวิวบนชั้น 124 และ 125 มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของดูไบ และ The View Deck บริการอาหารและเครื่องดื่มแบบพรีเมียม
บูร์จ คาลิฟาเป็นอาคารที่สามารถชมความสวยงามได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร
ด้านนอกอาคารมีน้ำพุดูไบ (Dubai Fountain) ซึ่งเป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ทะเลสาบเทียมด้านหน้าอาคาร ทุกเย็นจะมีการแสดงน้ำพุประกอบเสียงเพลงและแสงสีที่สวยงาม น้ำพุดูไบชมฟรี มีการแสดงทุกๆ 30 นาที
นอกจากนี้ ด้านนอกอาคารยังมีหน้าจอ LED ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ติดตั้งอยู่ด้านหน้าอาคาร ส่องแสงด้วยสีและลวดลายต่างๆ หน้าจอ LED จะเปลี่ยนเนื้อหาตามวันสำคัญหรือกิจกรรมต่างๆ
ในปี 2561 ได้แสดงการเต้นฮากา (Haka) ของนิวซีแลนด์ ในปี 2562 แสดงการเต้นสิงโตของจีน และในปี 2563 แสดงข้อความขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ที่ต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 ผ่านหน้าจอ LED
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบูร์จ คาลิฟา
เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับบูร์จ คาลิฟา
● บูร์จ คาลิฟาเปิดให้บริการในปี 2553 แต่ก่อนหน้านั้นมีการทดสอบการใช้งานหลายครั้ง ในวันที่ 9 กันยายน 2552 เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคตูม แห่งดูไบได้เยี่ยมชมอาคาร และในวันที่ 4 ธันวาคม 2552 รายการทีวีชื่อดังของสหรัฐอเมริกา Amazing Race ได้พาผู้เข้าแข่งขันมาเยี่ยมชมอาคาร นอกจากนี้ ในวันที่ 4 มกราคม 2553 ยังมีพิธีเปิดอาคารอย่างเป็นทางการ ซึ่งตรงกับวันขึ้นครองราชย์ของดูไบด้วย
● บูร์จ คาลิฟาปรากฏในภาพยนตร์แอ็คชั่นชื่อดังของสหรัฐอเมริกาเรื่อง Mission: Impossible – Ghost Protocol ในปี 2554 โดยมีฉากที่ทอม ครูซปีนป่ายผนังด้านนอกของบูร์จ คาลิฟาและกระโดดลงมา ฉากนี้ถ่ายทำที่บูร์จ คาลิฟาจริง และทอม ครูซแสดงเองโดยไม่มีสแตนอิน การถ่ายทำทำให้บูร์จ คาลิฟาต้องปิดให้บริการเป็นเวลา 23 วัน
● บูร์จ คาลิฟาปรากฏในงานกีฬาดูไบเทนนิสแชมเปี้ยนชิพในปี 2557 โดยมีฉากที่นักเทนนิสชื่อดังอย่าง โนวัก ยอโควิช และอันเดรียส เซปปี้ เล่นเทนนิสบน The View Deck ชั้นที่ 148 ของบูร์จ คาลิฟา ฉากนี้ถ่ายทำที่บูร์จ คาลิฟาจริง และนักเทนนิสทั้งสองสามารถเอาชนะความกลัวความสูงและสนุกกับการเล่นเทนนิสได้
● ในปี 2561 แร็ปเปอร์ชื่อดังของดูไบชื่อ มิสเตอร์ ที ได้โพสต์คลิปวิดีโอตัวเองร้องแร็พบนยอดบูร์จ คาลิฟาลงบนอินสตาแกรม มิสเตอร์ ทีขึ้นไปบนยอดแหลมของบูร์จ คาลิฟาและร้องแร็พท่ามกลางทิวทัศน์ของดูไบ คลิปนี้กลายเป็นที่พูดถึงในโลกอินเทอร์เน็ต และมิสเตอร์ ทีถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าขึ้นไปบนยอดแหลมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบูร์จ คาลิฟา
ความคิดเห็น0