หัวข้อ
- #โครงสร้างของโคลอสเซียม
- #ประวัติศาสตร์ของโคลอสเซียม
- #การใช้งานของโคลอสเซียม
- #ขนาดของโคลอสเซียม
- #แลนด์มาร์กของอิตาลี
สร้าง: 2024-04-02
สร้าง: 2024-04-02 20:29
โคลอสเซียมเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างอันเป็นสัญลักษณ์ของจักรวรรดิโรมัน ตั้งอยู่ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นสนามกีฬารูปวงรีขนาดมหึมา สิ่งก่อสร้างนี้ถือเป็นมรดกสำคัญที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของกรุงโรม และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโครงสร้างของกรุงโรมโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในโลก
โคลอสเซียมตั้งอยู่ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นสนามกีฬารูปวงรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นจากหินปูน หินภูเขาไฟ คอนกรีต และหินอาร์ช สามารถรองรับผู้ชมได้มากกว่า 50,000 คน มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร สูง (48 เมตร) กว้าง (156 เมตร) ยาว (189 เมตร) สะท้อนให้เห็นถึงทักษะทางด้านวิศวกรรมและความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิโรมัน
โคลอสเซียมประกอบด้วย 3 ชั้น แต่ละชั้นประดับประดาด้วยเสาแบบดอริก ไอออนิก และคอรินเธียนอันงดงาม ชั้นที่ 1 ใช้เสาแบบทัสคาน ชั้นที่ 2 ใช้เสาแบบไอออนิก และชั้นที่ 3 ใช้เสาแบบคอรินเธียน แต่ละชั้นมีหน้าต่างแบบโค้งและรูปปั้น ทำให้ดูหรูหราและยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น เสาแบบคอรินเธียนที่อยู่ชั้นที่ 3 มีชื่อเสียงในเรื่องของลวดลายใบอะแคนทัสที่แกะสลักอย่างประณีต โดยทั่วไปแล้ว ดอริกจะแสดงถึงเพศชาย ส่วนไอออนิกจะแสดงถึงเพศหญิง
เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 72 โดยจักรพรรดิเวสปาเซียน และแล้วเสร็จ 8 ปีต่อมาในสมัยของจักรพรรดิไททันบุตรชายของเขา เป็นสถานที่ที่แสดงถึงความบันเทิงและความโหดร้ายของจักรวรรดิโรมัน โดยจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การต่อสู้ของนักรบกลาดิเอเตอร์ การล่าสัตว์ และการประหารชีวิตต่อสาธารณชน นักรบกลาดิเอเตอร์ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด การล่าสัตว์มีสัตว์ต่างๆ เช่น สิงโต เสือ และช้างเข้าร่วม การประหารชีวิตต่อสาธารณชนเป็นการลงโทษที่โหดร้ายที่ทำให้ผู้กระทำผิดต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส แต่กลับเป็นที่สนุกสนานสำหรับชาวโรมัน สปาร์ตักัส นักรบกลาดิเอเตอร์ผู้โด่งดังกล่าวกันว่าสามารถเอาชนะนักรบกลาดิเอเตอร์ได้มากกว่า 70 คนในโคลอสเซียม
เมื่อจักรวรรดิโรมันเริ่มเสื่อมโทรม โคลอสเซียมก็ถูกทิ้งร้าง และได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวและการปล้นสะดม ในศตวรรษที่ 18 ถูกใช้เป็นป้อมปราการในยุคกลาง แต่ส่วนใหญ่พังทลายลงจนกลายเป็นโคลอสเซียมในปัจจุบัน ในปี ค.ศ. 1349 แผ่นดินไหวได้ทำลายกำแพงด้านนอกของโคลอสเซียมบางส่วน
ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกรุงโรม ทุกปีมีนักท่องเที่ยวหลายล้านคนเดินทางมาเยือนโคลอสเซียมเพื่อสัมผัสประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของกรุงโรมโบราณ ในเวลากลางคืนจะมีการเปิดไฟส่องสว่างทำให้โคลอสเซียมดูงดงามยิ่งขึ้น และประดับประดาอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืนของกรุงโรม ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น "เบน-เฮอร์" และ "กลาดิเอเตอร์" ทำให้เป็นสถานที่ที่คุ้นเคยสำหรับผู้คนทั่วโลก
มีการขุดค้นและสำรวจอย่างต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูสภาพเดิม และมีโครงการใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในการจำลองภาพลักษณ์ของโคลอสเซียมในอดีต นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริง เช่น การต่อสู้ของนักรบกลาดิเอเตอร์ การล่าสัตว์ และกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโคลอสเซียมได้อย่างสมจริง
● ชื่อโคลอสเซียมมาจากคำภาษาละตินว่า "โคโลเซอุส" ซึ่งมีความหมายว่า "รูปปั้นขนาดใหญ่" มีทฤษฎีที่น่าเชื่อถือที่สุดว่ามาจากรูปปั้นขนาดใหญ่ของจักรพรรดิเนโรที่อยู่ใกล้กับโคลอสเซียม
● การก่อสร้างโคลอสเซียมใช้วัสดุหลากหลายชนิด เช่น หินปูน หินภูเขาไฟ คอนกรีต และหินอาร์ช โดยเฉพาะคอนกรีตเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญของการก่อสร้างในสมัยโรมัน และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โคลอสเซียมมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร มีผลการวิจัยระบุว่า คอนกรีตที่ใช้ในการก่อสร้างโคลอสเซียมมีความแข็งแรงมากกว่าคอนกรีตในปัจจุบัน
● ที่นั่งในโคลอสเซียมแบ่งออกเป็นชั้นๆ ตามลำดับชั้นทางสังคม ชั้นสูงนั่งใกล้เวที ส่วนชั้นล่างนั่งไกลออกไป ผู้หญิงและเด็กมีที่นั่งแยกจากผู้ชาย
● การต่อสู้ของนักรบกลาดิเอเตอร์ในโคลอสเซียมเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ผู้ชมต้องจ่ายเงินเพื่อเข้าชมการต่อสู้ และส่งเสียงเชียร์ผู้ชนะ การต่อสู้ของนักรบกลาดิเอเตอร์แสดงให้เห็นถึงด้านที่รุนแรงของสังคมโรมัน
● โคลอสเซียมปรากฏอยู่ในผลงานต่างๆ เช่น ภาพยนตร์ ละคร และนวนิยาย ทำให้กลายเป็นภาพลักษณ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงโรมโบราณ ภาพยนตร์เรื่อง "เบน-เฮอร์" "กลาดิเอเตอร์" และ "โรมันเอ็มไพร์" เป็นตัวอย่างของภาพยนตร์ที่ใช้โคลอสเซียมเป็นฉากหลัง
● ปัจจุบันโคลอสเซียมยังคงใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ เช่น คอนเสิร์ต โอเปร่า และการแสดงแฟชั่น ทำให้เป็นสถานที่พิเศษที่ผสมผสานประวัติศาสตร์ของกรุงโรมโบราณกับวัฒนธรรมสมัยใหม่ ในปี ค.ศ. 2000 ลูเซียโน ปาวารอตติ นักร้องโอเปร่าชื่อดังได้จัดคอนเสิร์ตที่โคลอสเซียม และในปี ค.ศ. 2007 วาเลนติโน นักออกแบบแฟชั่นชื่อดังได้จัดการแสดงแฟชั่นที่โคลอสเซียม
ความคิดเห็น0