เจน Z เป็นเจเนอเรชั่นแรกที่เติบโตในสภาพแวดล้อมดิจิทัลคุ้นเคยกับสมาร์ทโฟนและวัฒนธรรมอินเทอร์เน็ต เรียกอีกอย่างว่า Generation Z / Gen-Z / Zoomer มาดูลักษณะเฉพาะและวัฒนธรรมของเจน Z กัน เช่น มุมมองแบบบุคคลนิยม มุมมองต่อชาติ มุมมองทางการเมืองและสังคม พฤติกรรมการบริโภคสื่อ ฯลฯ

※ Zoomer เป็นคำศัพท์ใหม่ที่เกิดจากการเรียนออนไลน์ผ่าน Zoom เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19

เจน Z เติบโตมากับสมาร์ทโฟน

เจน Z หมายถึงคนที่เกิดในช่วงกลางทศวรรษ 1990 ถึงปี 2010 พวกเขาเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่มีสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแพร่หลายตั้งแต่ยังเด็ก จึงเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมากกว่าใคร สมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่เจน Z มองโลกและสื่อสาร เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน และกลายเป็นวิถีชีวิต

เจน Z ได้รับการเปิดเผยต่ออุปกรณ์ดิจิทัลและสภาพแวดล้อมทางอินเทอร์เน็ตตั้งแต่แรกเกิด จึงเรียกพวกเขาว่า 'ดิจิทัลเนทีฟ (Digital Native)' พวกเขาดำเนินการกับคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน อุปกรณ์และแอปพลิเคชันทางอินเทอร์เน็ตได้อย่างเป็นธรรมชาติ ใช้เวลาในโลกออนไลน์มากกว่าโลกออฟไลน์ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น YouTube, Twitter, Instagram กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเจน Z

มุมมองแบบบุคคลนิยมของเจน Z

1. ให้ความสำคัญกับความเป็นตัวของตัวเองและการแสวงหาอิสรภาพ

เจน Z มีมุมมองที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายและความเป็นตัวของตัวเองของแต่ละบุคคล พวกเขามองว่าการแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองอย่างอิสระ มีความสำคัญมากกว่าแบบแผนที่ตายตัว และต้องการเลือกสิ่งที่ตรงกับมุมมองของตนเองในด้านอาชีพ กิจกรรมยามว่าง และวิถีชีวิต

2. ให้ความสำคัญกับการรักษาสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว (Work-Life Balance)

เจน Z มองว่าการรักษาสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวมีความสำคัญมาก พวกเขามองว่าความสุขและความพึงพอใจในปัจจุบัน มีความสำคัญมากกว่าการเสียสละชีวิตส่วนตัวเพื่อเงินและชื่อเสียง เมื่อเทียบกับคนรุ่นก่อน เจน Z ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับคุณค่าแบบดั้งเดิม เช่น การแต่งงาน การมีลูก การมีบ้านเป็นของตัวเอง และต้องการใช้ชีวิตแบบ 'โยโล (YOLO) คือ ใช้ชีวิตให้คุ้ม'

3. กลุ่มคนที่ต้องการเกษียณก่อนวัย (FIRE) เพิ่มขึ้น

ในทางกลับกัน บางส่วนของเจน Z เรียกว่ากลุ่มคนที่ต้องการเกษียณก่อนวัย (FIRE) ซึ่งมีเป้าหมายที่จะร่ำรวยและเกษียณเร็ว พวกเขา ต้องการเก็บเงินให้ได้มากพอที่จะเกษียณตอนอายุ 30-40 ปี จึงทุ่มเทให้กับการประหยัดอย่างสุดโต่งและการลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นอีกด้านหนึ่งของเจน Z ที่เลือกความอิสระในอนาคตมากกว่าความสุขในปัจจุบัน

มุมมองต่อชาติในฐานะความสัมพันธ์แบบข้อตกลง

1. ชาติในฐานะคู่สัญญาที่เท่าเทียมกัน

เจน Z มองว่าชาติเป็นคู่สัญญาที่เท่าเทียมกับบุคคล ชาตินั้นมีหน้าที่ต้องรับประกันความอิสระและสิทธิในทรัพย์สินของบุคคล และบุคคลก็มีหน้าที่พื้นฐานที่จะต้องปฏิบัติตามเพื่อรักษาชาติไว้

2. เรียกร้องให้มีการมอบหมายหน้าที่อย่างสมเหตุสมผล

แต่เจน Z มีแนวโน้มที่จะต่อต้านการที่ชาติบังคับหน้าที่ที่ไม่ยุติธรรมและฝ่ายเดียวต่อบุคคล พวกเขาตั้งคำถามเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหาร ร่างกฎหมายควบคุม และการที่ชาติจำกัดความอิสระของบุคคลโดยไม่ได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม และเรียกร้องให้มีคำอธิบายและการเจรจา ที่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับบทบาทของชาติ

มุมมองทางการเมืองและสังคมของเจน Z

1. การผสมผสานกันของความก้าวหน้าและอนุรักษ์นิยม

แนวโน้มทางการเมืองของเจน Z นั้นแตกต่างกันไปตามเพศ ในกรณีของผู้ชาย แนวโน้มทางเสรีนิยมทางเศรษฐกิจ การให้ความสำคัญกับความสามารถ และอนุรักษ์นิยมแข็งแกร่งกว่า ในขณะที่ผู้หญิงแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและ การยอมรับอุดมการณ์ทางเพศหญิงมากขึ้น โดยทั่วไปแล้ว เจน Z มีมุมมองแบบเสรีนิยมและมีอัตราส่วนของผู้ที่ไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง สูงเช่นกัน

2. ความสนใจในลัทธิหญิงและความเท่าเทียมทางเพศ

ผู้หญิงในเจน Z ไม่เหมือนผู้หญิงในรุ่นก่อน พวกเธอให้ความสนใจในลัทธิหญิงและขบวนการเพื่อความเท่าเทียมทางเพศอย่างมาก แม้จะต่อต้านการเคลื่อนไหวแบบรุนแรง เช่น ลัทธิหญิงหัวรุนแรง แต่ก็มีความเห็นชอบต่อการลบล้างการเลือกปฏิบัติทางเพศในชีวิตประจำวัน และการยกระดับสิทธิสตรี

3. ความขัดแย้งเรื่องเพศและกลุ่มคนไม่สนใจเพิ่มขึ้น

ในทางกลับกัน บางส่วนของผู้ชายในเจน Z ต่อต้านการเคลื่อนไหวเพื่อลัทธิหญิงอย่างมากเกินไป และแสดงออกถึงความเกลียดชังผู้หญิง ความขัดแย้งเรื่องเพศแพร่หลายเนื่องจากความขัดแย้งในสองขั้ว และแนวโน้มของกลุ่มคนที่ไม่สนใจก็เพิ่มขึ้น การพูดคุยกันในเจน Z เกี่ยวกับการรวมกลุ่มคนทุกวัยและคุณค่าความเท่าเทียมทางเพศจึงเป็นสิ่งจำเป็น

พฤติกรรมการบริโภคสื่อของเจน Z

1. ชื่นชอบวิดีโอและเนื้อหาสั้นๆ

เจน Z ชื่นชอบการได้รับข้อมูลผ่านวิดีโอหรือเนื้อหาสั้นๆ มากกว่าการอ่านบทความยาวๆ วิดีโอเนื้อหาสั้นๆ เช่น YouTube, TikTok, Instagram Reels ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มเจน Z ปรากฏการณ์การบริโภคเนื้อหาผ่านหนังสือเสียงมากกว่าการอ่านหนังสือแบบดั้งเดิม ก็เกิดขึ้นเช่นกัน

2. ผู้สร้างสื่อส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น

เจน Z ชอบสร้างเนื้อหาจากความสนใจหรืองานอดิเรกของตัวเองเพื่อแบ่งปันกับคนจำนวนมากบนโลกออนไลน์ กิจกรรมการสร้างสื่อของผู้สร้างสื่อส่วนบุคคลบนแพลตฟอร์มสื่อเช่น YouTube, Twitch มีชีวิตชีวา

เจน Z ไม่เพียงแต่เป็นผู้ผลิตเนื้อหาเท่านั้น แต่ยังเป็นแฟนตัวยงอีกด้วย พวกเขาติดตามช่องของผู้สร้างสื่อที่ชื่นชอบ เข้าร่วมการสตรีมสดและสื่อสารอย่างแข็งขัน วัฒนธรรมสื่อส่วนบุคคลเป็นแนวโน้มใหม่ที่เจน Z นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง

3. การแบ่งปันข้อมูลและการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย

โซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและเป็นเครื่องมือในการสื่อสารของเจน Z พวกเขาใช้โซเชียลมีเดียเพื่อแบ่งปันข้อมูล แสดงความคิดเห็นของตัวเอง และสื่อสารกับกลุ่มเพื่อนอย่างแข็งขัน พวกเขาแบ่งปันเทรนด์ อีเวนต์ มีม (วัฒนธรรมอินเทอร์เน็ต) แบบเรียลไทม์และสร้างอิทธิพล

4. ความสามารถในการรับข้อมูลอย่างกระตือรือร้น

เจน Z มีความสามารถในการรับและประมวลผลข้อมูลที่ยอดเยี่ยม ในสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่มีข้อมูลมากมาย พวกเขาเลือกบริโภคเฉพาะ เนื้อหาที่ตรงกับความชอบและตัวกรองของตนเอง เท่านั้น และพวกเขาไม่เพียงแต่รับข้อมูลเท่านั้น แต่ยังตีความและสร้างสรรค์ ใหม่ในแบบของตัวเอง

การรู้จักเจน Z คือการรู้จักอนาคต

เจน Z เป็นเจเนอเรชั่นแรกที่เติบโตในโลกดิจิทัล พวกเขามีมุมมองและวัฒนธรรมที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อน และสิ่งนี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อสังคมโดยรวมในอนาคต การทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะของเจน Z เช่น แนวโน้มแบบบุคคลนิยม มุมมองแบบปลดปล่อยต่อชาติและอำนาจ มุมมองทางการเมืองและสังคมที่เป็นเอกลักษณ์ พฤติกรรมการบริโภคสื่อแบบใหม่ ฯลฯ คือหนทางที่นำไปสู่การมองอนาคต

สิ่งสำคัญคือการจับและยอมรับกระแสการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่เจน Z นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง การทำความเข้าใจมุมมองและวิถีชีวิตของพวกเขาอย่างแท้จริงและปรับตัวให้เข้ากับพวกเขานั้นสำคัญมาก มิฉะนั้น เราอาจจะพลาดกระแสแห่งยุคสมัย การรู้จักเจน Z ซึ่งเป็นคนรุ่นอนาคต คือหนทางที่รวดเร็ว ที่สุดในการเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง